How to Play
ภาพรวมกติกา วิธีตั้งกระดาน และลำดับการเล่นของ The | Qubits⟩ Wars เพื่อให้ผู้เล่นเข้าใจโครงสร้างของเกมก่อนลงรายละเอียดการ์ดแต่ละประเภท

1. Game Setup – การเตรียมเกม
ก่อนเริ่มเล่นแต่ละรอบ ให้เตรียมอุปกรณ์และกระดานตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อให้ทุกคนอยู่ในสภาพเริ่มต้นเดียวกันและพร้อมสำหรับการทดลองควอนตัมบนกระดาน:
- วางกระดานวงจรควอนตัม บนโต๊ะให้ทุกคนมองเห็นชัดเจน จากนั้นวาง Result Tile ลงในช่อง Result และวาง Noise Tile ไว้ด้านบนกระดาน ที่ตำแหน่งวางการ์ด Noise แต่ละใบ
- เตรียมกองการ์ด การ์ด ได้แก่ Gate Operator, Strategy Card, Noise Card, Instant Card เรียกว่า Q-Card จะถูกนำมาสับร่วมกัน และ ในขณะเดียวกัน Mission Card จะถูกสับแยกออกจาก Q-Card
- Score Board ให้ใส่ชื่อผู้เล่น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะมีสีประจำของตนเองสำหรับบันทึกผลการวัดและคะแนนของผู้เล่นแต่ละคนในรอบนั้น
- เลือกหรือสุ่ม Mission Card ให้ผู้เล่นแต่ละคน 1 ใบ เป็นภารกิจส่วนตัวสำหรับรอบนั้น ผู้เล่นควรเก็บภารกิจของตนเป็นความลับจากคนอื่น
- กำหนดจำนวนรอบและโหมดเกม โดยพิจารณาจากจำนวนผู้เล่น เช่น หากมีผู้เล่น 4 คน ก็จะเล่น 4 รอบ (ใช้ Score Board 4 ใบ) แล้วรวมคะแนน หรืออาจจะกำหนดให้เป็น Quick Game เล่นรอบเดียวก็ได้ จากนั้นกำหนดโหมดในการเล่นของเกม Beginner/Intermediate/Advance
- สุ่มผู้เล่นคนแรก แล้วจัดลำดับการเล่นตามเข็มนาฬิกา รอบแรกให้แจก Q-Card ให้ผู้เล่นคนละ 4 ใบ เพื่อใช้วางแผนตั้งแต่เทิร์นแรก เมื่อจบรอบ ผู้เล่นคนถัดจากคนแรกนี้จะเป็นผู้เริ่มก่อนในรอบถัดไป
2. Game Flow – ลำดับการเล่นหลัก
ในหนึ่งรอบของเกม The | Qubits⟩ Wars การเล่นจะดำเนินไปตาม 3 Phase หลัก ตั้งแต่การเตรียมแผน การลงเกตควอนตัม ไปจนถึงการวัดผลและนับคะแนน:
Phase I – Preparation
ช่วงนี้เป็นการเตรียมความพร้อมด้านกลยุทธ์และสถานะเริ่มต้นของวงจรควอนตัม ผู้เล่นทุกคนจะทำขั้นตอนต่อไปนี้ก่อนเข้าสู่การลงเกตจริง:
- อ่าน Mission Card ของตนเองอย่างละเอียด ทำความเข้าใจเงื่อนไขที่ให้คะแนน เช่น ต้องการสถานะของคิวบิตแบบใด แพทเทิร์นใด หรือความสัมพันธ์แบบ entanglement แบบไหน
- สำรวจสภาพเริ่มต้นของคิวบิตบนกระดาน ว่าตำแหน่งใดสามารถใช้เกตพื้นฐาน (X, Z, H, SWAP, CNOT) เพื่อพัฒนาไปสู่เป้าหมายได้ง่ายที่สุด
- จัดเรียงการ์ดในมือ เช่น แยก Gate Operator ที่คิดว่าจะใช้แน่นอนกับการ์ดที่ไว้ใช้แก้เกม เช่น Strategy และ Instant Card
- วางแผนคร่าว ๆ สำหรับเทิร์นแรก ว่าจะใช้เกตใดกับคิวบิตตัวไหน และต้องการผลลัพธ์ intermediate state แบบใดในระยะสั้น
- ยืนยันจำนวนรอบใน Score Board ว่าจะบันทึกผลการวัดกี่ครั้ง และช่องคะแนนของผู้เล่นแต่ละคนถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว
Phase II – Quantum Operations
ใน Phase นี้ ผู้เล่นจะผลัดกันเล่นเทิร์นของตนเองเพื่อสร้างและปรับแต่งวงจรควอนตัม โดยใช้การ์ดต่าง ๆ อย่างมีกลยุทธ์:
- ลำดับการเล่น: เริ่มจากผู้เล่นคนแรก แล้ววนตามเข็มนาฬิกา ในแต่ละเทิร์น ผู้เล่นจะต้องเลือก ระหว่าง…
- เล่นการ์ด 1 ใบ(หรือ 2 ใบ ในกรณีเล่น CNOT) จากนั้นจั่วการ์ด 1 ใบแล้วจบเทิร์น
- การใช้ Gate Operator: ผู้เล่นเลือกคิวบิตและวางเกต X, Z, H, Identity, SWAP หรือ CNOT ลงบนตำแหน่งที่ต้องการ โดยต้องคำนึงถึงผลต่อสถานะของคิวบิตใน Phase การวัด (CNOT ต้องเล่นใน CNOT-Zone เท่านั้น)
- การใช้ Strategy Card: ใช้เพื่อสร้าง Effect ชั่วคราวในเทิร์นของตนเอง เช่น จั่วการ์ดเพิ่ม ปรับตำแหน่งเกต ยกเลิกข้อจำกัดบางอย่าง หรือช่วยให้เข้าเป้า Mission ได้เร็วขึ้น
- การใช้ Noise Card: เลือกตำแหน่งคิวบิตที่จะใส่ Noise ลงไป การ์ดนี้ทำให้ผลการวัดของคิวบิตนั้นมีความไม่แน่นอนมากขึ้น และอาจทำให้วงจรของคู่ต่อสู้เบี่ยงเบนจากที่วางแผนไว้ โดย Noise จะถูกวางคว่ำหน้าไว้ที่ด้านบนกระดานวงจร และเปิดเผยก่อนการวัดเท่านั้น
- การใช้ Instant Card: สามารถใช้แทรกกลางในเทิร์นของผู้อื่น หรือของตนเอง เช่น ยกเลิกผลของ Q-card ที่เพิ่งถูกเล่น ทำให้ Phase นี้เต็มไปด้วยการตอบโต้และการอ่านเกมของกันและกัน
- เปลี่ยน Q-card โดยเลือก Q-card 1 ใบในมือ ทิ้งแบบเปิดเผยไพ่ลงบนกองทิ้ง และจั่วใหม่ 1 ใบ แล้วจบเทิร์น
- บอกผ่าน คือการที่ผู้เล่นเลือกที่จะไม่เล่น หรือดำเนินการใด ๆ กับคิวบิตในรอบนั้น ๆ ซึ่งจะทำให้เทิร์นจบทันที
- เล่นการ์ด 1 ใบ(หรือ 2 ใบ ในกรณีเล่น CNOT) จากนั้นจั่วการ์ด 1 ใบแล้วจบเทิร์น
- เมื่อ Simple Quantum Gate Zone เต็ม ให้พิจารณาที่ CNOT-Zone ว่ามีการวางครบแล้วหรือยัง (1 กระดาน สามารถดำเนินการ CNOT ได้มากสุดแค่ 2 คู่ และคู่ที่ดำเนินการไปแล้วไม่สามารถดำเนินการซ้ำได้อีก) หากยังไม่ครบ ผู้เล่นคนอื่นๆ (ตามลำดับที่เล่น) สามารถเล่น CNOT ได้อย่างเดียวในช่วงนี้ และไม่สามารถจั่วหรือเปลี่ยน Q-card ได้อีกแล้วในช่วงนี้
- จบ Phase II: เมื่อผู้เล่นทุกคนใช้โอกาสในการลงเกตและการ์ดเสริมครบตามจำนวนที่กำหนดแล้ว Phase จะจบลงเมื่อทุกคนบอกผ่าน
Phase III – Measurement & Scoring
หลังจากวงจรควอนตัมถูกสร้างเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ช่วงสำคัญของเกม คือการวัดผล (Measurement) และการนับคะแนนจากผลลัพธ์ของคิวบิต:
- เตรียมการวัด: ตรวจสอบ Noise Card ทั้งหมดที่ถูกคว่ำไว้ โดยเปิดขึ้นมาทีละใบและอ่านผลของ Noise ที่เกิดขึ้น
- หากผลของ Noise นั้นเกิดขึ้นก่อนการ CNOT ให้ทำผลของการ Noise นั้นก่อน
- หากผลของ Noise นั้นเกิดขึ้นหลังการ CNOT แต่เกิดก่อนการวัด ให้ดำเนินผลนั้นหลังการพิจารณา CNOT
- หากผลของ Noise นั้นเกิดขึ้นหลังจากการวัด ให้ดำเนินการวัดให้เรียบร้อยก่อน (ทั้ง Single Shot และ 8-Shots) และค่อยพิจารณาผลของ Noise ที่เกิดขึ้นนั้น
- ทำการวัดสถานะก่อน CNOT: บันทึกสถานะของคิวบิตก่อนที่จะทำการ CNOT ลงใน Score Board
- ตรวจ Mission Card: เปิดเผยภารกิจใน Mission Card ของแต่ละคน บันทึกค่าจาก Mission Card ทั้งส่วนภารกิจหลัก และภารกิจรอง ลงใน Score Board
- ทำการวัดสถานะหลัง CNOT: ทำการวัด (Measure) สถานะคลาสสิคหลังจากทำการ CNOT โดยเริ่มจากการ
- วัดสถานะที่ไม่ซ้อนทับและไม่ถูกดำเนินการ CNOT ก่อน ใส่ค่าที่ได้ลงในช่อง Result ท้ายวงจร
- วัดสถานะที่มีการซ้อนทับกันแต่ไม่ถูกดำเนินการ CNOT เช่นสถานะ + หรือ – ให้ทอยลูกเต๋า ถ้าได้แต้มในช่วง 1 – 3 ให้ผลการวัดเป็น 0 แต่ถ้าได้แต้มในช่วง 4-6 ให้ผลการวัดมีค่าเป็น 1
- วัดสถานะที่มีการ CNOT โดยใช้เงื่อนไขการวัดตามวิธีการ CNOT (ศึกษาเพิ่มเติมจาก CNOT Tutorial)
- สรุปคะแนนรอบนั้น: รวมคะแนนจาก แต่ละ Mission ของแต่ละผู้เล่นใน Score Board เพื่อดูว่าใครนำอยู่ในขณะนั้น
- ในกรณี Easy Mode : Single Shot ให้ผู้เล่นบันทึกผลที่ได้จากการวัดครั้งเดียวนั้นลงใน Score Board ท้ายวงจรควอนตัม แล้วนับคะแนนด้วยตารางนับคะแนนในหน้าเดียวกันนั้น (ภารกิจหลักมีค่า 3 คะแนน)
- ในกรณี Intermediate/Advance Mode หลังจากบันทึกวงจรควอนตัมแล้ว ให้ผู้เล่นทำการวัด 8 รอบ และบันทึกผลในแต่ละรอบลงไปใน Histogram ด้านหลัง โดย 1 ช่องของ Histogram ของสถานะนั้นมีค่า 2 คะแนน (ถ้าได้ N ช่อง ก็ได้ 2N คะแนน)
- เตรียมรอบถัดไปหรือจบเกม: หากยังไม่ถึงเงื่อนไขจบเกม ให้รีเซ็ตส่วนที่จำเป็น (เช่น สถานะบนกระดานบางส่วน) แล้วเริ่มต้นรอบใหม่ แต่ถ้าเป็นรอบสุดท้ายให้รวมคะแนนทั้งหมดเพื่อหาผู้ชนะ
3. Card Types – ประเภทการ์ดในเกม
การเข้าใจบทบาทของการ์ดแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้เล่นวางแผนวงจรควอนตัมและตอบโต้คู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละประเภทได้จากปุ่มด้านล่าง:
Gate Operator
การ์ดที่ใช้ในการวางเกตพื้นฐาน X, Z, H, Identity, SWAP และ CNOT ลงบนคิวบิต เพื่อเปลี่ยนสถานะและสร้างวงจรให้เข้าเป้าหมายตาม Mission
Strategy Card
การ์ดกลยุทธ์ที่ใช้ในเทิร์นของเราเอง เพื่อสร้าง Effect ชั่วคราว เช่น จั่วการ์ดเพิ่ม เปลี่ยนตำแหน่งคิวบิต หรือแก้สถานการณ์ให้เป็นไปตามแผนวงจรที่วางไว้
Noise Card
การ์ดที่ใช้แทรก Noise ลงในคิวบิตบางตัว ทำให้ผลการวัดไม่แน่นอนมากขึ้น ใช้เพื่อรบกวนวงจรของคู่ต่อสู้หรือเพิ่มความเสี่ยงที่ควบคุมได้ให้กับกลยุทธ์ของตนเอง
Instant Card
การ์ดที่ใช้ “แทรกกลาง” ระหว่างเทิร์นของผู้เล่นคนอื่น สามารถยกเลิก หรือตอบโต้การ์ดที่อีกฝ่ายเพิ่งใช้ ทำให้เกิดจังหวะพลิกเกมและสร้างความไม่คาดฝันในทุก ๆ รอบ